ฉลากสติกเกอร์ติดขวดแบบไหน ที่กันน้ำได้ ติดทน ไม่หลุดลอกง่าย

การเลือกฉลากสติ๊กเกอร์สำหรับติดขวดแก้วต้องพิจารณาวัสดุ และคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น สติ๊กเกอร์ PVC, PP หรือกระดาษ เพื่อให้ติดทน ทนทานต่อความชื้นและน้ำ ช่วยสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น

ปัจจุบันมีการแข่งขันทางธุรกิจสูง การสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้าผ่านการออกแบบและการใช้ฉลากสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ของตนเอง โดยเฉพาะสินค้าที่บรรจุในขวดแก้ว เช่น เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ การเลือกใช้ฉลากสติ๊กเกอร์ที่มีคุณภาพและทนทานจึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้สินค้าของคุณดูดีและไม่หลุดลอกจากการใช้งาน

การเลือกฉลากสติ๊กเกอร์สำหรับขวดแก้วมีหลายประเภท ซึ่งต้องพิจารณาคุณสมบัติของวัสดุและลักษณะการใช้งานของสินค้า เพื่อให้ได้สติ๊กเกอร์ที่ติดทนและเหมาะสมกับการใช้งานในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมกับการติดขวดแก้ว และวิธีการเลือกใช้งานที่ถูกต้อง

แยกประเภทฉลากสติ๊กเกอร์ ติดสินค้าประเภทแก้วตามการใช้งาน

ก่อนที่ผู้ประกอบการจะเลือกใช้สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้าให้เหมาะสม จำเป็นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานของสินค้า โดยสามารถแยกประเภทสติ๊กเกอร์ตามลักษณะการใช้งานได้ดังนี้

1.สติ๊กเกอร์ที่โดนน้ำไม่ได้

หากสินค้าที่บรรจุในขวดแก้วไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับน้ำ เช่น น้ำดื่มที่ไม่ต้องแช่เย็น หรือเครื่องดื่มที่ไม่ต้องสัมผัสกับความชื้นมากเกินไป สามารถเลือกใช้สติ๊กเกอร์ที่ไม่กันน้ำได้ดีมากนัก ดังนี้

1.1 สติ๊กเกอร์กระดาษแบบขาวด้าน

สติ๊กเกอร์กระดาษแบบขาวด้านเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าหากคุณต้องการสติ๊กเกอร์ที่มีราคาถูกและมีความเรียบหรู ใช้ได้ดีกับสินค้าที่ไม่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นมากเกินไป โดยสติ๊กเกอร์ชนิดนี้สามารถกันน้ำได้เพียง 40% เท่านั้น จึงไม่เหมาะสมกับสินค้าที่ต้องการป้องกันความชื้นหรือสัมผัสน้ำมาก

• ข้อดี: ราคาถูกและให้ความเรียบหรู เหมาะกับการใช้ในสินค้าที่ไม่สัมผัสน้ำ
• ข้อเสีย: ไม่สามารถกันน้ำได้ดี และไม่ทนทานต่อความชื้นหรือสัมผัสน้ำมากนัก
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับสินค้าภายในที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำหรือความชื้น เช่น ขวดน้ำผลไม้ที่ไม่ต้องแช่เย็น

1.2 สติ๊กเกอร์กระดาษแบบขาวมัน

สติ๊กเกอร์กระดาษแบบขาวมันมีความคล้ายกับสติ๊กเกอร์กระดาษแบบขาวด้าน แต่มีความเงางาม ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ เหมาะสำหรับสินค้าที่ไม่ต้องสัมผัสกับน้ำโดยตรง แต่อาจไม่เหมาะกับสินค้าที่ต้องจุ่มน้ำ เนื่องจากสติ๊กเกอร์ชนิดนี้มีคุณสมบัติกันน้ำได้เล็กน้อยเท่านั้น

• ข้อดี: ให้ความเงางามและโดดเด่น
• ข้อเสีย: ทนต่อความชื้นได้ไม่ดี
• การใช้งาน: เหมาะกับสินค้าที่ไม่ได้สัมผัสกับน้ำหรือความชื้นมากนัก เช่น ขวดเครื่องดื่มที่ไม่ต้องสัมผัสน้ำ

2.สติ๊กเกอร์ที่โดนน้ำได้

สำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องแช่ในช่องฟรีซ ฉลากสติ๊กเกอร์กระดาษจะไม่สามารถใช้งานได้ดี ควรเลือกใช้วัสดุสติ๊กเกอร์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำและความชื้นได้ดี เช่น

2.1 สติ๊กเกอร์พีพี (PP)

สติ๊กเกอร์พีพีเป็นสติ๊กเกอร์ที่ทนทานต่อความชื้นและความเย็นได้ดี 100% ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำโดยตรงหรือเก็บในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง วัสดุพีพียังช่วยให้พิมพ์รายละเอียดได้คมชัดและสีสันสวยงาม ข้อดีของสติ๊กเกอร์ชนิดนี้คือสามารถใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ต้องมีการสัมผัสน้ำหรือความเย็น เช่น ขวดน้ำหรือเครื่องดื่ม

• ข้อดี: ทนทานต่อความชื้นและเย็น 100% พร้อมสีสันที่คมชัด
• ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูงกว่าสติ๊กเกอร์กระดาษ
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับขวดที่ต้องแช่น้ำหรือแช่ในช่องฟรีซ เช่น ขวดน้ำผลไม้หรือเครื่องดื่มในตู้เย็น

2.2 สติ๊กเกอร์ PVC

สติ๊กเกอร์ PVC เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยสามารถกันน้ำได้ 100% และทนทานต่อความร้อนถึง 60 องศาเซลเซียส เหมาะกับสินค้าที่ต้องการความทนทานสูง ทั้งในเรื่องของการสัมผัสน้ำ ความร้อน หรือความชื้น ที่สำคัญกาวของสติ๊กเกอร์ PVC ยังสามารถยึดเกาะพื้นผิวได้ดีและทนทาน

• ข้อดี: ทนทานต่อทั้งความชื้นและความร้อน เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องสัมผัสกับน้ำและความร้อน
• ข้อเสีย: อาจไม่เหมาะกับการพิมพ์ที่มีรายละเอียดตัวอักษรเล็กๆ
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสน้ำหรือความร้อนสูง เช่น ขวดเครื่องดื่มที่ต้องสัมผัสกับความร้อน

คำแนะนำในการเลือกวัสดุสติ๊กเกอร์ที่ดีที่สุด

1.เลือกสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะส่งผลต่อความทนทานของสติ๊กเกอร์และการใช้งานที่ยาวนาน หากสินค้าของคุณต้องสัมผัสน้ำหรือความร้อน ควรเลือกสติ๊กเกอร์ที่มีคุณสมบัติกันน้ำหรือความร้อนได้ดี

• แนะนำ: หากสินค้าของคุณต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น เช่น ขวดน้ำหรือเครื่องดื่ม ควรเลือกใช้สติ๊กเกอร์พีพีหรือ PVC
• ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการใช้สติ๊กเกอร์กระดาษสำหรับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นมาก เพราะอาจทำให้สติ๊กเกอร์หลุดลอกได้ง่าย

2.คำนึงถึงคุณภาพของกาว

นอกจากวัสดุของสติ๊กเกอร์แล้ว ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาวด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าฉลากจะติดแน่นและไม่หลุดลอกออกมา โดยเฉพาะกับสินค้าที่ต้องสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น

• แนะนำ: เลือกสติ๊กเกอร์ที่มีกาวคุณภาพสูง เพื่อให้มั่นใจว่าฉลากจะติดแน่นแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือความร้อนสูง
• ข้อควรระวัง: การเลือกกาวที่ไม่ดีอาจทำให้สติ๊กเกอร์หลุดลอกเร็วหรือไม่ทนทาน

3.การออกแบบและขนาดตัวอักษร

การออกแบบและขนาดของตัวอักษรก็มีความสำคัญในการเลือกใช้สติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้า ควรหลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรขนาดเล็กเกินไป เพราะอาจจะทำให้ตัวอักษรไม่คมชัดเมื่อพิมพ์บนวัสดุบางประเภท

• แนะนำ: ควรใช้ตัวอักษรที่มีขนาดพอเหมาะ และสอดคล้องกับลักษณะของสติ๊กเกอร์ เพื่อให้ตัวอักษรคมชัด และอ่านง่าย
• ข้อควรระวัง: ตัวอักษรที่เล็กเกินไปอาจทำให้ไม่ชัดเจน และอาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถอ่านข้อมูลบนฉลากได้

หากคุณกำลังมองหาบริการออกแบบ และผลิตฉลากสติ๊กเกอร์สินค้าคุณภาพ เราขอแนะนำบริการที่ Thaiprintshop คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด มีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมให้คำแนะนำและบริการพิมพ์ฉลากสินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์ PVC, PP หรือกระดาษ เใช้วัสดุที่ทนทานและเหมาะสมกับทุกการใช้งาน เพื่อให้สินค้าของคุณดูดีและโดดเด่นบนชั้นวางสินค้า

คุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม หรืออยากออกแบบฉลากสติ๊กเกอร์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ สามารถเยี่ยมชม และปรึกษา ได้ที่เว็บไซต์ ที่ Thaiprintshop.com ได้เลย

สรุป

การเลือกฉลากสติ๊กเกอร์สินค้าติดขวดแก้วนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญเพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์และช่วยให้สินค้าดูดีในสายตาลูกค้า การเลือกวัสดุสติ๊กเกอร์ที่มีคุณสมบัติตรงตามการใช้งานจะช่วยให้ฉลากติดทนและมีความคงทนในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสติ๊กเกอร์พีพี, PVC หรือกระดาษ ควรเลือกให้เหมาะสมกับสินค้าที่ต้องการนำไปใช้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งในด้านการใช้งานและการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

ด้วยการเลือกวัสดุสติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมและการพิจารณาอย่างรอบคอบในการผลิตสติ๊กเกอร์สำหรับสินค้าของคุณ คุณจะสามารถสร้างแบรนด์ที่โดดเด่นและยั่งยืนได้อย่างมั่นใจ

อ่านบนความเพิ่มเติม: สติ๊กเกอร์ติดแก้วกาแฟ เลือกใช้แบบไหนดี? เจ้าของธุรกิจคาเฟ่ควรรู้